หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

พุทธมนต์ แก้วสารพัดนึก




พุทธมนต์ แก้วสารพัดนึก

พุทธะรัตตะนัง ธัมมะรัตตะนัง สังฆะรัตตะนัง อาราธานานัง สะระนังคัจฉามิ

  o         อิติปิโส โสปิติอิ อิติพุทโธ อิติธัมโม อิติสังโฆ นะอะนะวะยะ มะอะอุ นะโม พุทธายะ ยะธาพุทโมนะ

  o         ปัญจะมะหาพระพุทธัง สัพพัญญูตะญานัง พระธัมมัง โลกุตตะรัง วะลัง พระสังฆัง มัคคะ พะละ
             พุทธะสาวะกัง รัตตะนะตะยังยัง เอตัสสะ พระพุทธะอานุภาเวนะ สัพพะฌานัง ยาวะชีวัง พระพุทธัง 
             สะระณัง คัจฉามิ

  o         อิติปิโส ภะคะวา เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตติโหนตุ ชัยยะมังคะลัง มะหาพระธัมมะ สาวัง 
             คุณณัง มะอะอุ นะโมพุทธายะ
             อิติปิโส ภะคะวา เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตติโหนตุ ชัยยะมังคะลัง มะหาพระธัมมะ สาวัง 
             วิชชา มะอะอุ นะโมพุทธายะ
             อิติปิโส ภะคะวา เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตติโหนตุ ชัยยะมังคะลัง มะหาพระธัมมะ สาวัง 
             พะลัง มะอะอุ นะโมพุทธายะ
             อิติปิโส ภะคะวา เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตติโหนตุ ชัยยะมังคะลัง มะหาพระธัมมะ สาวัง 
             เตชัง มะอะอุ นะโมพุทธายะ
             อิติปิโส ภะคะวา เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตติโหนตุ ชัยยะมังคะลัง มะหาพระธัมมะ สาวัง 
             วิระยัง มะอะอุ นะโมพุทธายะ
             อิติปิโส ภะคะวา เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตติโหนตุ ชัยยะมังคะลัง มะหาพระธัมมะ สาวัง
             สิทธิ มะอะอุ นะโมพุทธายะ 
             อิติปิโส ภะคะวา เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตติโหนตุ ชัยยะมังคะลัง มะหาพระธัมมะ สาวัง 
             กัมมัง มะอะอุ นะโมพุทธายะ
             อิติปิโส ภะคะวา เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตติโหนตุ ชัยยะมังคะลัง มะหาพระธัมมะ สาวัง 
             ธัมมัง มะอะอุ นะโมพุทธายะ
             อิติปิโส ภะคะวา เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตติโหนตุ ชัยยะมังคะลัง มะหาพระธัมมะ สาวัง 
             สัจจัง มะอะอุ นะโมพุทธายะ
             อิติปิโส ภะคะวา เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตติโหนตุ ชัยยะมังคะลัง มะหาพระธัมมะ สาวัง 
             นิพพานัง มะอะอุ นะโมพุทธายะ
             อิติปิโส ภะคะวา เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตติโหนตุ ชัยยะมังคะลัง มะหาพระธัมมะ สาวัง 
             โมกขัง มะอะอุ นะโมพุทธายะ
             อิติปิโส ภะคะวา เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตติโหนตุ ชัยยะมังคะลัง มะหาพระธัมมะ สาวัง
             คุยหะกัง มะอะอุ นะโมพุทธายะ 
             อิติปิโส ภะคะวา เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตติโหนตุ ชัยยะมังคะลัง มะหาพระธัมมะ สาวัง 
             ทานัง มะอะอุ นะโมพุทธายะ
             อิติปิโส ภะคะวา เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตติโหนตุ ชัยยะมังคะลัง มะหาพระธัมมะ สาวัง 
             วิชชา มะอะอุ นะโมพุทธายะ
             อิติปิโส ภะคะวา เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตติโหนตุ ชัยยะมังคะลัง มะหาพระธัมมะ สาวัง 
             สีลัง มะอะอุ นะโมพุทธายะ
             อิติปิโส ภะคะวา เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตติโหนตุ ชัยยะมังคะลัง มะหาพระธัมมะ สาวัง 
             ปัญญา มะอะอุ นะโมพุทธายะ
             อิติปิโส ภะคะวา เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตติโหนตุ ชัยยะมังคะลัง มะหาพระธัมมะ สาวัง 
             นิกขัง มะอะอุ นะโมพุทธายะ
             อิติปิโส ภะคะวา เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตติโหนตุ ชัยยะมังคะลัง มะหาพระธัมมะ สาวัง
             ปุญญัง มะอะอุ นะโมพุทธายะ 
             อิติปิโส ภะคะวา เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตติโหนตุ ชัยยะมังคะลัง มะหาพระธัมมะ สาวัง 
             ภาคะยัง มะอะอุ นะโมพุทธายะ
             อิติปิโส ภะคะวา เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตติโหนตุ ชัยยะมังคะลัง มะหาพระธัมมะ สาวัง 
             ตัปปัง มะอะอุ นะโมพุทธายะ
             อิติปิโส ภะคะวา เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตติโหนตุ ชัยยะมังคะลัง มะหาพระธัมมะ สาวัง 
             ยะสัง มะอะอุ นะโมพุทธายะ
             อิติปิโส ภะคะวา เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตติโหนตุ ชัยยะมังคะลัง มะหาพระธัมมะ สาวัง 
             สุกขัง มะอะอุ นะโมพุทธายะ
             อิติปิโส ภะคะวา เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตติโหนตุ ชัยยะมังคะลัง มะหาพระธัมมะ สาวัง 
             สิริ มะอะอุ นะโมพุทธายะ
             อิติปิโส ภะคะวา เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตติโหนตุ ชัยยะมังคะลัง มะหาพระธัมมะ สาวัง
             รูปปัง มะอะอุ นะโมพุทธายะ 
             อิติปิโส ภะคะวา เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตติโหนตุ ชัยยะมังคะลัง มะหาพระธัมมะ สาวัง
             จะตุวี สะติ เทสะนัง มะอะอุ นะโมพุทธายะ

  o         อิติปาระมิตตาติงสา อิติสัพพัญญูมะคะตา อิติโพธิ มะนุปปัตโต อิติปิโสจะเตมะโน

  o         นะโมพุทธายะปะ มะอะอุ อุอะมะทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา ยาวะตัสสะ หาโย โมนะ
             อุอะมะ ปะยะธาพุทโมนะ มะอะอุ อุอะมะ ทุกขัง อนิจจัง อะนัตตา อะหังวันทา นะโมพุทธา ยะปะ 
             นะอะกะติ นิสะระณะ ปัญจะมะหาพระพุทธัง มะอะอุ ทุกขัง อะอุมะ อะนิจจัง อุมะอะ อะนัตตา
             ตะถาคะตัสสะ ธาระณะ ปริตตัง มะหานุภาวัง มะหาเตชัง ปัญจะมะหา พระสัพพัญญูพุทธัง โลกะนาถัง
             อะหัง วันทามิ สัพพะทา

___________________________________________________


อานิสงค์ของการสวดภาวนา

พระพุทธเวศ มหาทิพมนต์ สวดภาวนาบรรเทาทุกข์โศกโรคภัยกลัดกลุ้ม เรื่องร้ายจะกลายเป็นเรื่องดี ภัยพิบัติไม่มี เราผู้ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย จะคุ้มครองให้สมมโนปรารถนาทุกประการ

พระพุทธเวศ มหาทิพมนต์ มีอานุภาพทางป้องกันอันตรายทั้งปวง เสกทรายหรือก้อนหินไปวางไว้รอบๆ ที่ปักกลดในป่าในดง ป้องกันสัตว์ร้ายในป่า อยู่บ้านเสกข้าวสารซัดรอบบ้าน ศัตรูคิดร้ายมิได้เลย มีอานุภาพป้องกันการกระทำย่ำยีทางคุณไสยได้ด้วย ให้สวดหรือเสกด้ายมงคลหรือผ้าติดตัวไป เมื่อมีภัยอันตรายเกิดขึ้น ขว้างผ้าหรือด้ายออกไป ศัตรูหมู่มารทั้งหลายจะแตกกระจายหมดสิ้นไป ป้องกันภูตผี ปีศาจ วิเศษจริงๆ ถ้าสวดถึง ๑๐๘ จบ จะใช้ได้ทั้ง ๑๐๘ พันประการ

พระพุทธเวศ มหาทิพมนต์ ใช้สวดสาธยายกันเสนียดจัญไรทั้งหลาย ถ้าเจ้านายโกรธให้เสกแป้งน้ำมันหอมทาตัวไปเถิด เป็นเสน่ห์เมตตามหานิยมอย่างประเสริฐ สวดภาวนาเสกผ้านุ่งผ้าห่ม เสื้อผ้าอาภรณ์ เป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม เสกแป้งหอมน้ำมันทาตัวไปหาขุนนางเจ้านายผู้ใหญ่รักเราสุดหัวใจ

พระพุทธเวศ มหาทิพมนต์ ภาวนาเกิดตบะเดชะ เหมือนพระยาราชสีห์ มีกำลังมากมาย ป้องกันอสรพิษทั้งปวง ป้องกันพิษไข้อย่างแรง สัพพะพิษทั้งหลายจะวินาศด้วยตบะเดชะ ถ้าเจ้านายผู้ใหญ่ท่านโกรธใส่เรา ให้สวดบทนี้ เจ้านายจะกลับคืนดีรักเรา มีอำนาจ ตบะเดชะ คนเกรงขามตัวเรานัก

พระพุทธเวศ มหาทิพมนต์ ใช้ภาวนาแก้เสนียดจัญไร แก้สิ่งอุทาทว์ ดวงชะตาไม่ดี ที่บ้านที่อยู่อาศัยไม่ดี แก้การกระทำย่ำยี คุณยาแฝด คุณไสย สัพพะอุบาทว์ จัญไรวินาศสิ้นไป

พระพุทธเวศ มหาทิพมนต์ สวดภาวนามีชัยชนะแก่ศัตรู แคล้วคลาดจากสัพพะอันตราย อาวุธทั้งปวง ปืนผาหน้าไม้ ปลุกเสกพระเครื่องป้องกันสัพพะอันตราย วิเศษจริงๆ ไปต่างบ้านต่างเมือง จะมีผู้ช่วยเหลือ อุปถัมป์ค้ำจุน ข้าศึกศัตรูภัยไม่มี เราอยู่สุขเกษมเปรมปรีดิ์ เพราะมีเทพยดาช่วยคุ้มครองรักษา

พระพุทธเวศ มหาทิพมนต์ ตกภาวนา ๗ จบหรือ ๙ จบ ทำจิตเป็นหนึ่งเดียว ภาวนาไปเรื่อยๆ จะเกิดพลังอานุภาพบนพองสยองตัว จิตใจจะเยือกเย็น จะมองเห็นดวงแก้ว ทำจิตให้ว่างเป็นสูญ แล้วน้อมจิตอธิษฐานพระคาถา มหาสูญใหญ่ (สูญญะโต วิโมกโข อะนิมิตโต วิโมกโย อัปปะนิหิตโต วิโมกโข สุญญะตะนุปัสสะนา อะนิมิตะนุปัสสะนา อัปปะนิหิตตะนุปัสสะนา พระพุทโธ จะพิโตเยยโย รูปปะกาโย จะธัมมะตานิมิตโต เจวะสุภาโม โยโอโน เวจจะธะปินติโต) จะบังเกิดมโนภาพพระพุทธเจ้าหรือพระปัจเจกพุทธโพธิเจ้า หรือพระผู้ทรงอภิญญาจะเสด็จมาโปรด เราจะได้สมมโนปรารถนาทุกประการ

พระพุทธเวศ มหาทิพมนต์ ภาวนาเมื่อเดินป่าปักกลดหรือเดินทางไกล กันสารพัดศัตรู เสือ ช้าง สัตว์ดุร้ายในป่าทุกชนิด ตลอดทั้งผีโป่ง ผีป่า ผีกะ ผียักษ์ เราอธิษฐานจิตเป็นหอกโมกขศักดิ์ ศาสตรวุธพุ่งใส่ศัตรูทั้งหลายวินาศสิ้น สวดภาวนาเข้าสู่ศัตรู สัตว์ป่าดุร้าย แตกกระจายหนีไปเอง แคล้วคลาดจากศาสตราวุธทั้งปวง ประสบชัยชนะจากหมู่มารเข้ามาราวี

พระพุทธเวศ มหาทิพมนต์ เหมือนมีตาข่ายเหล็กหุ้มตัว เป็นตาข่ายเพชรล้อมรอบ ป้องกันสัพพะอันตรายทั้งปวง ไม่มีมาใกล้ตัวเราเลย มีสติปัญญาดี เรียนหนังสือได้คล่อง ท่องจำได้ไว เป็นอ้อป่องสมองใส

พระพุทธเวศ มหาทิพมนต์ ภาวนาเจริญศีลสมาธิวิปัสสนากัมมัฎฐาน จิตจะสว่าง สงบ สุข ชุ่มชื่น อยู่ในอารมณ์ของสูญญตา

พระพุทธเวศ มหาทิพมนต์ สวดภาวนาเมื่อกลัดกลุ้มเรื่องโชคชะตา เคราะห์ไม่ดี โชคไม่มี กิจการค้าขายขาดทุน เราภาวนาจะรุ่งเรืองด้วยศรีสมบัติ หมดทุกข์ เราอยู่สุขสวัสดี สัพพะอันตราย เวรภัยไม่มี เราจะอยู่สุขสบายด้วยลาภ ยศ สุข สรรเสริญ อายุ วรรณะ สุขะ พละ จตุรพิธพรชัยทั้ง ๔ ประการ 

พระพุทธเวศ มหาทิพมนต์ สวดภาวนาป้องกันโรคภัยต่างๆ เสกยากินจะมีอายุยืน ร่างกายผิวพรรณจะเปล่งปลั่ง เป็นหนุ่มเป็นสาว เคยสวดรักษาอหิวาตกโรคได้ผลจริงๆ ป้องกันพยาธิ อาฆาตศัตรูทั้งหลายจะเข้ามาเป็นมิตร สัตว์ทั้งหลายไม่มีดุร้าย จะเมตตารักใคร่ต่อเรา

พระพุทธเวศ มหาทิพมนต์ ใช้สวดภาวนาต่อดวงชะตาราศี อายุจะยั่งยืน มั่งมีเงินทอง เป็นที่รักที่ชอบแก่คนทั้งหลาย เกิดเมตตามหาระรวยมั่งมีเงินทอง ถ้ามีบุตรชายบุตรสาว เสกให้กินให้อาบ รูปร่างผิวพรรณจะงดงามเหมือนชาวสวรรค์

พระอริยะสงฆ์ทั้งหลาย ตลอดทั้งอินทร์ พรหม ยม เทวการ ท่านทั้งหลายต่างก็กล่าวเน้นว่า พระพุทธศาสนาเป็นของจริงของแท้ที่เรายึดมั่น เป็นหลักชัยแห่งชีวิต ยิ่งได้มีการปฏิบัติธรรมทั้งทาน รักษาศีลและภาวนาอยู่สม่ำเสมอ ความสุขความเจริญเกิดขึ้นแก่ตนแน่นอนไม่ต้องสงสัย การรวยทรัพย์สินเงินทองไม่ได้อานิสงค์ ไม่เท่ากับรวยบุญรวยกุศล ซึ่งจะบังเกิดความสุข ความเจริญในปัจจุบัน แต่ตามติดวิญญาณไปทุกภพทักชาติด้วย

ท่านมิกธรรมมุนีภิกขุ ท่านก็อำนวยอวยพรให้เจริญรุ่งเรือง อยู่เย็นเป็นสุข ๓ ประการ คือ มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ ในบั้นปลาย ฉะนั้น พวกเราชาวพุทธมามกะทั้งหลาย จงตั้งจิตตั้งใจเตริญสวดมนต์ภาวนาทุกเช้าค่ำเถิด จะบังเกิดความสวัสดีมงคลแก่ตนเอง และครอบครัว มิตรสหาย โลกเราจะได้พบแต่สันติสุข จะพ้นจากสัพพะภัยอันตรายทั้งมวล ให้มีความร่มเย็นเป็นสุขโดยถ้วนหน้า จะเกิดโชคลาภมั่งมีเงินทองอย่างมหัศจรรย์





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น